แนวโน้ม e-Payment ไทย เรื่องที่ผู้บริโภคในยุคใหม่คุ้นเคย

โดย Pay Solutions


ต้องยอมรับว่าจากนี้ไปเรายังต้องใช้ชีวิตผ่านออนไลน์แทบจะทั้งหมด เมื่อต้นปีที่ผ่านมามีข่าวดีเรื่องของเพย์เมนต์ระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารกลางของสิงคโปร์ที่เชื่อมระบบชำระเงินรายย่อยแบบเรียลไทม์ระหว่างกันผ่าน Promptpay ของไทย และ PayNow ของสิงคโปร์

ต่อไปเวลาที่เราไปสิงคโปร์แล้วเห็นร้านที่มีป้าย PayNow เราสามารถสแกน QR Code จ่ายได้เลย ซึ่งระบบจะคำนวณเป็นเงินสิงคโปร์ ณ ขณะนั้นเลย แต่จะโอนได้ไม่เกิน 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 25,000 บาทไทยต่อวัน ซึ่งค่า fee ไม่แพง ถือว่าน่าสนใจมาก

ในเมืองไทยตอนนี้ร้านขนาดเล็กก็สามารถจ่ายผ่านระบบพร้อมเพย์ได้เกือบหมด เมื่อมาดูตัวเลขการเติบโตของการชำระเงินของไทยจากธนาคารแห่งประเทศ ระบุว่า ปริมาณธุรกรรมอีเพย์เมนต์ในปี 2020 มีประมาณ 202 ครั้งต่อคนต่อปี แต่ปี 2021 เติบโตขึ้นมาประมาณ 210 ครั้งต่อคน จุดที่น่าสนใจคือในปี 2019 การใช้อีเพย์เมนต์มีเพียง 135 ครั้งต่อคนต่อปี จะเห็นว่ามีการโตขึ้นมหาศาลอย่างเห็นได้ชัด

ในขณะเดียวกันคนที่ใช้อินเทอร์เน็ตและโมบายล์แบงก์กิ้งทั้งประเทศมีประมาณ 104 ล้านบัญชี เป็นตัวเลขที่สูงมาก ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สามารถลดปริมาณการใช้กระดาษลง ในแง่ของการโอนเงินผ่านอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งหรือและโมบายล์แบงก์กิ้งเฉพาะในเดือนมกราคม 64 มีการโอนเงินประมาณ 5,960 บาทต่อครั้ง มีจำนวนประมาณ 1,000 ล้านรายการ และมูลค่าที่มีการโอนทั้งหมดประมาณ 6,300 พันล้านบาท

ความน่าสนใจคือ volume ในมกราคมเติบโตขึ้นมาถึง 81% เป็นจำนวนที่มาก และที่น่าสนใจต่อมาคือจำนวนของ e-money หรือ Wallet ต่าง ๆ มีจำนวนผู้ใช้มากถึง 109 ล้านบัญชี ซึ่งมีจำนวนมากกว่าอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งและโมบายล์แบงก์กิ้ง เหตุผลน่าจะมาจากคนที่ใช้อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งหรือและโมบายล์แบงก์กิ้งได้นั้นต้องมีอายุ 12 ปีขึ้นไป ดังนั้นกลุ่มเด็กที่เล็กลงไปยังใช้ไม่ได้แต่ใช้ e-Wallet ได้

ข้อมูลการชำระเงินผ่าน e-money นั้นมีมูลค่า 150 บาทต่อรายการ สังเกตว่าการโอนเงินผ่านอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งหรือและโมบายล์แบงก์กิ้งจะมีประมาณ 5,960 บาทต่อครั้ง แต่การโอนผ่าน e-money มีแค่ 150 บาทต่อรายการ ซึ่งเรียกว่า micro payment เป็นการซื้อของย่อย ๆ ตลาดใหญ่สุดของ e-money คือ เกม จะเป็นพวกกลุ่มเด็กหรือคนเล่นเกมที่ชอบซื้อไอเทมต่าง ๆ ในเดือนมกราคมมี transaction ทั้งหมด 189 ล้านรายการ

ในแง่ของพร้อมเพย์ก็มีความน่าสนใจมาก ตัวเลขจำนวนผู้ใช้ 56 ล้านบัญชี โตขึ้นปีต่อปีประมาณ 13% volumn ต่อวันประมาณ 21 ล้านรายการ เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปีโตขึ้น 120% สูงขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด และมีการโอนเงินค่าเฉลี่ยประมาณ 690 บาทต่อรายการ

ถือได้ว่าพร้อมเพย์ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนไทยในสถานการณ์แบบนี้อย่างมาก คนกล้าที่จะใช้มากขึ้น เพราะพร้อมเพย์นั้นจำง่าย สะดวกกว่า และปลอดภัยมากกว่าในสภาวะที่มีโควิดแบบนี้ ถ้าไม่ใช้พร้อมเพย์เราอาจมีจำนวนคนที่ติดโรคมากกว่านี้ไปแล้วด้วยซ้ำ หลายธุรกิจก็ปรับตัวเองไปใช้ระบบการชำระเงินแบบอีเพย์เมนต์ 100% เช่น สตาร์บัคส์ ที่เป็น cashless 100% ไปแล้ว

นอกจากนี้ระบบที่ยังเติบโตได้ดี คือบัตรเครดิตและเดบิต เรามีจำนวนบัตรเครดิต 24.6 ล้านใบ โตขึ้น 1.9% จำนวนบัตรเดบิต 64.3 ล้านใบ โตขึ้น 1.2% อัตราการเติบโตของบัตรเริ่มน้อยลงนั่นเพราะตอนนี้ทุกธนาคารมีบริการการกดเงินแบบไม่ต้องใช้บัตร

เมื่อก่อนบัตรเครดิตและเดบิตถือเป็นตัววัดให้เห็นว่าประเทศมีการพัฒนาเข้าสู่ระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่แล้วหรือไม่ แต่เดี๋ยวนี้มีอีกตัววัดหนึ่งคือ ดูว่ามี e-money มากน้อยขนาดไหน ซึ่งเมืองไทยถือว่ามีใช้กันมาก และจำนวนคนใช้พร้อมเพย์ซึ่งเป็น e-money แบบหนึ่งก็มีเยอะมากเช่นเดียวกัน

มูลค่าการจ่ายบัตรเครดิตทางออนไลน์ และทาง EDC หรือเครื่องรูดบัตร ปัจจุบันคนที่รูดบัตรผ่านทางออนไลน์ 1 ครั้ง เฉลี่ยประมาณ 1,290 บาทต่อออเดอร์ แต่คนรูดบัตรผ่านเครื่องรูดบัตรเฉลี่ยประมาณ 2,180 บาทต่อออเดอร์

ในแต่ละที่มีการใช้งานที่ต่างกัน คนไทยที่มีบัตรเครดิตแต่ก็อาจใช้บัตรเครดิตจ่ายออนไลน์ แต่อีกกลุ่มหนึ่งก็ยังกลัวว่าจะโดนแฮกหรือมีคนแอบเอาบัตรเครดิตไปใช้ แถมตอนนี้ทุกมาร์เก็ตเพลสก็มีการเก็บเงินปลายทาง หลายคนโดยเฉพาะต่างจังหวัดที่กลัวการจ่ายก่อนจะชอบแบบนี้มากกว่า

ในแง่ของอีคอมเมิร์ซนั้น คนจะเลิกหรือทิ้งสินค้าชิ้นนั้นส่วนใหญ่อยู่ตอนชำระเงิน การจ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ต้องกรอกข้อมูลมากและยุ่งยากอาจทำให้หลายคนยกเลิก แต่หากเป็นการเก็บเงินปลายทางส่วนใหญ่จะสบายใจมากกว่า ฉะนั้น โอกาสการขายก็จะง่ายมากกว่า

สินค้าที่เก็บเงินปลายทางจะมีประมาณ 3-4% ที่ถูกปฏิเสธหรือยกเลิก ลูกค้ามีโอกาสเปลี่ยนใจได้เพราะยังไม่จ่ายเงิน ในขณะที่ลูกค้ารูดบัตรเครดิตหรือจ่ายทางออนไลน์ไปแล้ว โอกาสที่ลูกค้าจะยกเลิกมีน้อยมากกว่า แต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป


สำหรับธุรกิจขายของออนไลน์วิธีที่ดีที่สุดคือต้องพยายามหาวิธีเก็บเงินมาก่อนได้เป็นดี แต่ระบบที่คุณมีนั้นครอบคลุมทุกช่องทางหรือยัง ถ้ายังไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ลองโทรมาปรึกษากับ PaySolutions เพย์เม้นต์เกตเวย์ของไทย ที่สามารถให้คุณมีระบบชำระเงินออนไลน์ของคุณเองได้ง่าย ๆ โทรปรึกษาฟรีที่ 02-821-6163